แหวนแต่งงานแบบทันสมัย ที่คู่บ่าวสาวใฝ่ฝันถึง ก็แหม๋ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งสำคัญที่เรียกได้ว่าเป็น “ของมันต้องมี” สำหรับว่าที่บ่าวสาวก็คือ แหวนแต่งงาน และหลายคู่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นหาแหวนยังไง แบบไหนถึงจะใช่และเหมาะกับคู่ของคุณมากที่สุด แถมอยากให้ดูทันสมัย แต่ก็ยังอยู่ได้ทุกกาลเวลา วันนี้ลูเมียร์เรามีไกด์ไลน์การเลือกแหวนแต่งงานแบบต่างๆ โดยเฉพาะ แหวนแต่งงานแบบทันสมัย ฉบับรวบรัด ที่จะทำให้การเลือกแหวน กลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ มาฝากกัน เพราะฉะนั้น จัดไปค่ะ!
ใครที่อยากคุมงบให้อยู่ ลองแพลนคร่าวๆ ไว้ได้เลยค่ะ การมีงบประมาณในใจ จะดีกับตัวคุณ ทางร้านสามารถแนะนำได้ว่าแหวนแต่งงานแบบไหนที่จะตรงกับใจของลูกค้า ก็แหม๋ เราต้องใส่ทุกวัน เพราะฉะนั้น ดีไซน์ควรเป็นปัจจัยหลักที่คุณๆใส่แล้วต้องมั่นใจ เข้ากับบุคลิก ส่วนน้ำหนักต้องพอเหมาะ สวมใส่สบาย ง่ายต่อชีวิตประจำวัน ทั้งทำงานและการใช้ชีวิต จะเอ็กซ์ตรีม หรือ ชิลขนาดไหน ก็จะทำให้การสวมแหวนแต่งงานทุกๆวันของคุณเป็นเรื่องง่ายค่ะ
ไอเดียสำหรับตั้งงบประมาณในการเลือกแหวน
แต่ถ้าไม่มีไอเดียเลย ว่าควรจะเริ่มต้นสักที่เท่าไหร่ เราพอจะแนะนำราคาของแหวนคร่าวๆได้ แหวนเพชรจะเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาด คุณภาพเพชรและตัวเรือน โดยขนาดเพชรที่นิยมมาทำเป็นแหวนแต่งงานที่ได้รับใบรับรองที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้อย่าง GIA ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาทางด้านอัญมณีศาสตร์จากสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก คือ 0.30 กะรัต หรือ 30 ตังค์ โดยราคาเพชรหลักๆ แล้ววัดกันที่ 4 เรื่อง 1.ขนาด 2.น้ำ (ในที่นี้คือสีของเพชร) 3. การเจียระไน 4.ความสะอาด (เช่น จุดที่เป็นตำหนิ อันเป็นธรรมชาติของเพชร) โดยเพื่อนๆ สามารถดูบทความเกี่ยวกับวิธีเลือกเพชรแบบเจาะลึกได้ที่ รู้จัก 4C
เทคนิคในการเลือกแหวนแต่งงาน
“เลือกที่ใช่ ตรงกับไลฟ์สไตล์และความเป็นตัวตนของคุณ”

สำหรับบทความนี้เราจะมาพูดถึงแบบต่างๆ ของแหวน และการเลือกแหวนแต่งงาน หรือแหวนคู่ให้เข้ากับบ่าวสาวอย่างลงตัวกันสำคัญมากๆ เพราะงานแต่งมีวันเดียว ในพิธี ทุกโมเม้นควรสมบูรณ์แบบสุดๆ
การสวมแหวนหลังจากวันแต่ง จะยังคงเป็นไปในทุกๆวัน ดังนั้น ทั้งดีไซน์ การใช้งานและขนาด มีผลกับการเลือก
แหวนแต่งงานแบบทันสมัย เป็นเรื่องที่คุณๆมองข้ามไม่ได้ค่ะ แหวนแต่งงานที่ดี ควรดึงความเป็นตัวตนของคุณออกมา ทั้งภาพลักษณ์และบุคลิค เพราะฉะนั้นลองสวมวงไหน แล้วใจบอกว่าใช่ ก็อย่าปฎิเสธใจตัวเองค่ะ

-
เลือกแหวนให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำงาน
-
แหวนแต่ง ที่ไม่ใช่แบบเพชรชู
เลือกแหวนให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำงาน
โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องมือต่างๆ ดีไซน์และน้ำหนักของแหวนมีผลมากๆต่อการทำงานและชีวิตประจำวันค่ะ และที่ขาดไม่ได้เลย คือขนาดไซส์ของแหวน ควรใส่ให้พอเหมาะพอดี โดยเฉพาะว่าที่เจ้าสาวที่เลือกครอบครองแหวนเพชรเม็ดเดี่ยว ควรใส่ให้พอเหมาะกับขนาดของนิ้วตนเอง เพราะถ้าหลวมไป แหวนจะกลิ้งไปด้านข้างนิ้ว ส่วนถ้าเล็กไปก็อาจมีหน้าเขียวกันได้ค่ะ อ่ะหลอกกก จริงๆถ้าแน่นเกินไป ก็อาจจะรู้สึกปวดนิ้วเวลาที่สวมใส่ไปนานๆได้ค่ะ
แหวนแต่งที่ไม่ใช่แบบเพชรชู
แหวนเกลี้ยง : จัดเป็นแบบแหวนที่คลาสสิกมากๆ ด้านในของแหวนมักจะมีการฝังเพชรเม็ดเล็กๆ ตัวเรือนแหวนเรียบๆ เหมาะจะเป็น แหวนแต่งงานแบบทันสมัย อยู่ได้ทุกกาลเวลา สำหรับคู่รักที่ชอบสไตล์เรียบหรู เพราะเป็นแบบที่ใส่ได้ทุกวัน แมทช์ได้ทุกชุด เห็นเรียบๆ แบบนี้แต่ก็มีความหมายซ่อนอยู่ว่า เป็นการแทนคำสัญญาว่าจะรักและมั่นคงต่อกันตลอดไป เพราะทรงกลมก็หมายถึงไม่มีจุดสิ้นสุดด้วยนั่นเองค่ะ
แหวนเพชรล้อม : คู่ไหนอยากได้แหวนที่สื่อถึงรักนี้ไม่มีที่สิ้นสุด อยู่กันไปแบบเพื่อน จัดแบบนี้ไปเลยค่ะ แหวนเพชรล้อมเหมาะกับสายมินิมอลไม่แพ้แบบแหวนเกลี้ยง ใครที่ไม่ชอบอะไรหวือหวา แต่ดูเลอค่า ตัวเลือกนี้ต้องมานะคะ
แหวนเพชรเม็ดเดี่ยว : นิยมใช้เป็นแหวนแต่งงานมากที่สุดเลยค่ะ เพราะเพชรเม็ดเดี่ยวมีความหมายแฝงที่แสดงถึงความรักเดียวใจเดียว การซื่อสัตย์ต่อคนรัก แหวนแบบนี้บางแบบตัวเพชรจะชูช่อขึ้นมา หรือบางแบบก็ติดกับตัวเรือน ส่วนตัวเรือนจะเป็นแบบเรียบง่าย โดยมักใช้เพชรขนาด 0.30 กะรัตขึ้นไป เหมาะกับเจ้าสาวที่ชอบแบบเรียบๆ แต่คลาสสิคตลอดกาลค่ะ
แหวนทรงบ่าข้าง : แหวนทรงนี้จะประกอบด้วยเพชร 2 เม็ดเล็ก อยู่ด้านข้างซ้ายขวา ส่วนเพชรตรงกลางจะเป็นเพชรเม็ดใหญ่ขึ้นมา ส่วนตัวเรือนก็จะเป็นแบบเรียบๆ เหมาะเลยที่จะเป็นแหวนแต่งงาน ด้วยความหมายแสนหวานที่สื่อถึงอดีต ปัจจุบัน อนาคต เปรียบเสมือนความรักที่อยู่เหนือกาลเวลา ยิ่งคู่ไหนที่รักกันมานานยิ่งเหมาะที่สุดเลยค่ะ ทั้งยังมีความหมายอื่นๆ เช่น ความเจริญรุ่งเรือง การมีทรัพย์สินและบริวารด้วยนะคะ
สีและวัสดุของตัวเรือนแหวน vs สีผิวบ่าวสาว เรื่องสำคัญที่ห้ามมองข้าม!
เพราะสีมีผลกับผิวของเรา ในปัจจุบันมี ทอง 3 สี
- ทองคำ
- ทองคำขาว
- ทองชมพู หรือ โรสโกลด์
ทองคำ : ตัวเรือนแบบนี้จะใช้ทองบริสุทธิ์ หรือสีทองนั้น เหมาะมากสำหรับผิวโทนผิวสีน้ำผึ้ง หรือผิวขาวจัดๆอมชมพู ก็จะเสริมเสน่ห์ให้มือและนิ้วได้เลยเต็มๆ
ทองคำขาว : เป็นทองคำที่มีสีออกขาวๆ เงินๆ ขับหัวเพชรได้อย่างโดดเด่น งดงาม แม้จะมีราคาที่ต่ำกว่าวัสดุแพลตตินั่ม แต่ก็จัดว่าเป็นงานแหวนที่สวยงามไม่แพ้กัน ทั้งยังเป็นที่นิยมมากอีกด้วย สีของแหวนทองคำขาวแมทช์ได้ดีกับคนที่มีผิวสีขาวเหลือง
โรสโกลด์ : เป็นทองคำที่เกิดจากการนำเอาส่วนผสมของทองเหลืองนวลและทองแดงมาผสมเข้าด้วยกัน จนได้เป็นแร่สีทองอมชมพูขึ้นมา เป็นโทนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโรแมนติกมาก ซึ่งสีแบบนี้เข้ากับผู้ที่มีผิวสีน้ำผึ้งหรือโทนผิวอมชมพูได้อย่างลงตัวเลยค่ะ

Tips: รู้จักสีกันไปแล้ว รู้จักความคงทนของสีบนตัวเรือนของแหวนแต่งงานด้วยดีกว่าค่ะ ถ้าตัวเรือนนั้นๆขึ้นด้วยสีที่คุณๆอยากได้ จะทำให้อายุการใช้งานยาวนานกว่าการที่ขึ้นสีนึงแล้วชุบเปลี่ยนไปอีกสีนึง หรือที่เรียกว่าลอกออกค่ะ
นอกจากสีของทองแล้ว หลายคนคงเคยได้ยินและสงสัยข้อแตกต่างในเรื่องเปอร์เซ็นต์ของทอง มันคืออะไรและมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
- 24K เปอร์เซ็นต์ทอง
- 18K เปอร์เซ็นต์ทอง
- 14K เปอร์เซ็นต์ทอง

| Tip: ยกตัวอย่างกันไปคร่าวๆ ยิ่งตัวเลขหน้า K น้อยลง ทองบริสุทธิ์ที่ผสมอยู่ ก็น้อยตาม
24K คือตัวเรือนที่มีทองบริสุทธิ์ 99.99% จำพวก สร้อยทอง หรือทองคำแท่ง เหมาะกับเอาไว้เก็งกำไร และเป็นส่วนนึงของสินสอดทองหมั้น ตัวเรือนบิดเบี้ยวได้ง่าย เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของทองคือนิ่มค่ะ
18K ก็คือ ตัวเรือนที่มีทองบริสุทธิ์ 75% เป็นเปอร์เซ็นต์ที่เหมาะกับเป็นแหวนแต่งงาน เพราะได้น้ำหนักทองบริสุทธิ์ที่เยอะที่สุด ในขณะที่ตัวเรือนก็มีความแข็งแรง จึงเป็นที่นิยมทั่วไปค่ะ
14K ก็คือ ตัวเรือนที่มีทอง 58.3% ตัวเรือนจะแข็งแรงคงทน เหมาะกับคู่รักสายแอ็คทีฟ งานปีนเขาต้องมา วิ่งมาราธอนต้องมี เพราะตัวเรือนจะเป็นรอยยากกว่า 18k มีความแข็งแรงคงทนกว่า แต่ก็มีเนื้อทองบริสุทธิ์ผสมอยู่น้อยกว่า
ศึกษาตัวเรือนกันไปแล้ว ไปถึงดีไซน์แบบไหนของแหวนแต่งงานที่เหมาะกับนิ้วของคุณบ้างกันดีกว่า
นิ้วเรียวยาว : ยินดีด้วยค่ะ จะแหวนทรงไหนก็เข้ากับนิ้วเรียวยาวได้หมดเลย แต่ต้องดูว่านิ้วผอมรึเปล่าด้วยนะคะ หากผอมก็ต้องเลือกแบบก้านแหวนที่หนาหน่อย หรือมีเพชรบ่าด้านข้าง แต่ถ้าค่อนข้างมีเนื้อ ก้านแบบบางก็เอาอยู่ค่ะ
นิ้วผอมเล็ก : เลือกเพชรทรงอวบอิ่มก็จะช่วย เช่นเพชรหัวใจ เพชรรูปไข่ หรือ ทรงกลมนี่แหละใช่เลยค่ะ เพราะจะช่วยขับให้นิ้วของเจ้าสาวดูสวย อวบอิ่มยิ่งขึ้น ส่วนตัวเรือนก็สามารถเลือกได้ทั้งแบบเรียบ หรือมีเพชรตรงบ่าข้างเพื่อให้ก้านแหวนดูหนาขึ้นมา ได้ดูเต็มนิ้วค่ะ
นิ้วอ้วนใหญ่: ลองเลือกแบบแหวนตัวเรือนที่บาง มีลูกเล่นได้ แต่ให้เน้นตรงก้านบาง เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ให้นิ้วดูเรียว
ข้อนิ้วใหญ่ : ให้เพชรบนแหวนมาแย่งซีนดึงดูดความสนใจแทน ฉะนั้นควรเลือกทรงแหวนแต่งงานที่ค่อนข้างบาง หนามเตยบางเพื่อดึงความโดดเด่นไปที่เพชร ถ้าอยากมีเพชรที่บ่าด้านข้าง ก็อาจใส่ได้เล็กน้อย แต่ไม่ควรเยอะเกินไปนะคะ
นิ้วค่อนข้างสั้น : เลือกทรงแบบแหวนที่ตัวเรือนค่อนข้างเปิดพื้นที่ให้นิ้ว เพื่อให้ดูเรียวยาว และที่สำคัญก้านแหวน ห้ามหนาเด็ดขาด เพราะจะยิ่งบดบังพื้นที่ ที่จะช่วยทำให้นิ้วเราดูยาว
รู้จักแหวนแบบต่างๆ พร้อมเทคนิคในการเลือกแหวนแต่งงานให้เหมาะกับคู่ของคุณแล้ว
ขั้นตอนต่อไปก็ได้เวลาหาแบบแหวนที่ตรงใจ ค่อยๆ ดูแบบที่ใช่ แล้วไปลองเลือกดูที่หน้าร้าน ทำการจองวันนัด คลิกที่นี่ เพื่อลองสวมและดูว่าเข้ากับคุณหรือไม่ สวมใส่สบาย เหมาะกับการทำงานและชีวิตประจำวันรึเปล่า เพราะถ้าใส่ได้ตลอดและมีคุณค่าต่อจิตใจ รับรองว่าแหวนวงนั้น จะเป็นสัญลักษณ์แทนความรักของคู่คุณได้อย่างดีที่สุดเลยล่ะค่ะ